21 June 2019
ในโลกปัจจุบัน หลายอาชีพเริ่มมี AI มาทดแทน และบางอาชีพอย่างกราฟิก หรือสายอาร์ตต่างๆ กลับออกไปรับฟรีแลนซ์ ค้าขาย ทำ E-commerce หรือประกอบอาชีพอื่นๆ ซึ่งดูเหมือนจะคุ้มกว่า แม้ต้องแลกกับการไม่มีรายได้ที่แน่นอน และไม่มีสลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือนที่แสดงถึงที่มาของรายได้อย่างชัดเจน โดยหลายคนอาจลืมคิดถึงเรื่องการพิจารณาอนุมัติธุรกรรมการเงินที่เกี่ยวข้องกับการกู้ยืม หรือทำบัตรเครดิตไว้ผ่อนอุปกรณ์แสนแพงต่างๆ แบบนี้ฟรีแลนซ์ที่ไม่มีสลิปเงินเดือนจะทำอย่างไรดี ไปดูกัน!
สลิปเงินเดือน คือเอกสารที่แสดงรายละเอียดของเงินเดือนปัจจุบันว่าได้เท่าไหร่ เป็นของเดือนใด ใครเป็นผู้จ่ายให้ และใครเป็นผู้รับ ซึ่งสลิปเงินเดือนเป็นหนึ่งในโอกาสที่ธนาคารจะอนุมัติการกู้เงิน หรือการลงทุนของเรา เพราะโดยทั่วไปธนาคารจะให้เครดิตกับคนที่มีรายได้มั่นคง มีที่มาของรายรับชัดเจน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับเขาได้ว่า เรามีกำลังพอที่จะชำระหนี้คืนอย่างแน่นอนนั่นเอง
แล้วถ้าไม่มีสลิปเงินเดือนแบบเราๆ ล่ะ จะทำอย่างไร สามารถกู้เงินก้อนได้ไหม หรือสามารถทำบัตรเครดิต บัตรผ่อนสินค้าได้หรือป่าว ขอบอกเลยว่าได้แน่นอน!!! ปัจจุบัน เหล่าสถาบันการเงินต่างๆ ได้มีสินเชื่อไว้รองรับสำหรับผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระหรือเจ้าของธุรกิจอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น บัตรเครดิต หรือบัตรผ่อนสินค้าที่ไม่มีสลิปเงินเดือน, บัตรกดเงินสดไม่มีสลิปเงินเดือน, สินเชื่อไม่มีสลิปเงินเดือน แม้กระทั่งเงินด่วนที่ไม่ใช้สลิปเงินเดือน ก็ยังมีให้เลือกตามไลฟ์สไตล์และความต้องการของเราไม่แพ้กับคนมีเงินเดือนเลย แต่ต้องมีคุณสมบัติดังนี้
หากเป็นเจ้าของกิจการ จะต้องมี
หากทำฟรีแลนซ์ หรือประกอบอาชีพอิสระ จะต้องมี
ทั้งนี้เอกสารต่างๆ อาจเปลี่ยนแปลงไปได้ ตามเงื่อนไขของสถาบันการเงินนั้นๆ ดังนั้นขอแนะนำให้ติดต่อสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ธนาคารนั้นๆ เลยว่าจะต้องเตรียมอะไรบ้าง เพื่อความพร้อม และไม่ต้องคว้าน้ำเหลวกลับไปกลับมาหลายรอบให้เหนื่อยใจ แถมยังเปลืองค่ารถอีกด้วยนะ
เมื่อรู้แล้วว่าการทำธุรกรรมการเงินนั้นจะต้องเตรียมอะไรบ้าง ถึงคราวกลับมาทำความรู้จักเอกสารนั้น และปั่นความพร้อมกันนน!! เริ่มต้นด้วย
อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า คุณสมบัติของผู้กู้นอกจากจะต้องมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์แล้ว ยังต้องมีรายได้ไม่น้อยกว่า 15,000 บาทต่อเดือน ซึ่งสิ่งที่ใช้เป็นหลักฐานที่ทำให้ธนาคารเห็นว่าเรามีรายได้มากเพียงพอนั่นก็คือ บัญชีเงินออมทรัพย์ของเรานั่นเอง! ธนาคารจะมีการตรวจสอบบัญชี และสำหรับคนที่อยากจะขอสินเชื่อ ธนาคารอาจมีการขอ statement บัญชีส่วนตัวย้อนหลังประมาณ 6 เดือน มันก็แลกเปลี่ยนสลิปเงินเดือน
ดังนั้นเราจะต้องทำให้บัญชีของเรามีการเคลื่อนไหวอยู่เสมอ อาจจะเป็นการนำเงินไปฝากเข้า และถอนออก แต่ก็ควรมียอดเงินคงเหลือที่ดูดีมีระดับด้วย หรือเรียกง่ายๆ ว่า การเดินบัญชีที่ดีนั่นเอง ซึ่งเราควรทำให้สม่ำเสมออย่างน้อย 6 เดือน รับรองว่าผ่านฉลุยแน่นอนค่ะ
สำหรับคนที่ทำการค้าขาย หรือธุรกิจของตัวเอง และเริ่มมีการวางแผนการเงินหมุนเวียน สนใจอยากกู้เงินเพื่อต่อยอดทางธุรกิจต่างๆ เอกสารภาษีรายได้บุคคลธรรมดาที่เราต้องจ่ายให้กับรัฐบาลตามกฎหมายเพื่อให้ไปพัฒนาประเทศ เป็นอีกหนึ่งเอกสารที่สำคัญที่สามารถยืนยันได้จริงว่า เรามีรายได้ประมาณเท่าไหร่ ได้จากที่ไหน การจ่ายภาษีิอย่างถูกต้องตามกฎระเบียบ จะทำให้สถาบันทางการเงิน หรือธนาคารที่ให้บริการสินเชื่อ มั่นใจถึงแหล่งที่มาของรายได้ของเรา และมั่นใจว่าเราสามารถผ่อนชำระหนี้เขาได้ นั่นยิ่งเป็นตัวช่วยที่ทำให้การขอสินเชื่อนั้นผ่านได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
แต่สำหรับบุคคลที่มีอาชีพรับจ้างอิสระ หรือฟรีแลนซ์ เพราะเราไม่มีสลิปเงินเดือนต้องมีหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (ทวิ 50) แสดงรายได้ปีล่าสุด ซึ่งแน่นอนว่าในเอกสารนั้นจะแสดงข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับรายได้ แหล่งที่มาของรายได้ และภาษีที่โดนหักออกไปอย่างชัดเจน ดังนั้นเอกสารนี้จึงสามารถทำให้ธนาคารเชื่อได้ว่า เรามีรายได้จริง จากแหล่งที่มานี้จริงๆ และยิ่งมีการจ่ายกันผ่านธนาคารยิ่งทำให้การเดินบัญชีไม่นิ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะจะยิ่งช่วยให้การขอสินเชื่อนั้นผ่านได้ง่ายมากยิ่งขึ้นเช่นเดียวกัน
เห็นไหมล่ะคะว่า ปัจจุบันไม่ว่าอาชีพไหนก็สามารถทำธุรกรรมทางการเงินหลายๆ แบบได้อย่างเท่าเทียมกัน ดังนั้นตอนนี้สิ่งที่เราต้องทำคือ ขยันทำงานหารายได้ให้มีไหลผ่านบัญชีมาอย่างสม่ำเสมอ มีวินัยและความรับผิดชอบในการจ่ายภาษี และประวัติการชำระหนี้ให้ดี แต่ไม่มีสลิปเงินเดือน เพียงเท่านี้โอกาสที่ธนาคารจะอนุมัติการขอสมัครสินเชื่อต่างๆ ก็จะผ่านไปด้วยดีแล้วล่ะค่ะ