25 April 2019
หลายคนคงจะเคยได้ยินคำว่า “เครดิตบูโร” กันมาบ้าง แต่อาจจะไม่ได้รู้จักว่ามันคืออะไร หรือไม่เคยได้ใช้งานเจ้าเครดิตบูโรนี่กันซักที แต่สำหรับใครก็ตามที่มีแผนจะทำธุรกรรมการเงินอย่างการขอสินเชื่อ ก็ห้ามมองข้ามเครดิตบูโรเป็นอันขาดเพราะสิ่งนี้คือข้อมูลสำคัญที่สถาบันการเงินจะใช้เพื่อพิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้กับเรา ว่าแล้วเราก็ไปทำความรู้จักเครดิตบูโรกันเลยดีกว่า!
เครดิตบูโร พูดง่าย ๆ ก็เหมือนกับเป็นแฟ้มเก็บประวัติทางการเงินของเราว่าตัวเรามีความน่าเชื่อถือในเรื่องการทำธุรกรรมมากแค่ไหน โดยเครดิตบูโรจะรวบรวมข้อมูลประวัติการชำระสินเชื่อ และการชำระบัตรเครดิตของเราจากสถาบันการเงิน หรือผู้ให้บริการสินเชื่อต่าง ๆ เมื่อไหร่ก็ตามที่เราต้องการจะขอสินเชื่อสถาบันการเงินก็จะทำการตรวจสอบเครดิตบูโรของเราว่ามีประวัติการขาดผ่อนชำระสินเชื่อหรือบัตรเครดิตบ้างรึเปล่า จากนั้นสถาบันการเงินก็จะนำข้อมูลดังกล่าวไปประกอบการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้กับเรา ดังนั้นเครดิตบูโรจึงเป็นข้อมูลที่สำคัญที่สุดสำหรับการยื่นขอสินเชื่อ ถ้าหากเรามีประวัติสะอาดมีการชำระสินเชื่อหรือบัตรเครดิตอย่างสม่ำเสมอ การอนุมัติสินเชื่อในครั้งต่อ ๆ ไปก็จะทำได้โดยง่าย แต่หากเรามีประวัติการขาดส่งชำระสินเชื่อหรือบัตรเครดิต ก็อาจจะส่งผลให้เรา “ติดเครดิตบูโร” ซึ่งจะทำให้เราทำการขอสินเชื่อได้ยากขึ้นมาก ๆ นั่นเอง
โดยปกติแล้วเครดิตบูโรในประเทศไทยจะทำการบันทึกข้อมูลของเราไว้ไม่เกิน 3 ปี ถ้าหากติดเครดิตบูโรก็จำเป็นต้องรอให้หมดรอบบันทึกเสียก่อนถึงจะทำการขอสินเชื่อได้ตามปกติ แต่ถ้าเราไม่สามารถรอให้หมดรอบการบันทึกของเครดิตบูโรได้ หนทางที่ดีที่สุดก็คือการชำระหนี้ที่เราค้างไว้ให้หมด ซึ่งมันก็จะช่วยให้เครดิตของเรามีความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้นและสถาบันการเงินก็อาจจะพิจารณาปล่อยกู้ให้เราได้
เครดิตบูโรถือเป็นข้อมูลลับที่ไม่ใช่ว่าจะไปขอดูของใครก็ได้ ถ้าหากไม่ใช่ตัวเจ้าของเครดิต ก็จะต้องเป็นสถาบันการเงินที่ได้รับการยินยอมจากเจ้าของเครดิตแล้วจึงจะสามารถเข้าไปดูข้อมูลได้
สำหรับใครก็ตามที่อยากจะตรวจสอบเครดิตบูโรเพื่อตรวจเช็คข้อมูลของตัวเอง ก็สามารถไปเช็คเครดิตบูโรได้ 2 วิธี