สัญญากู้ยืมเงิน: เรื่องควรรู้ก่อนทำ ‘สัญญากู้ยืมเงิน’ ด้วยตัวเอง

14 February 2017

สัญญากู้เงิน

เชื่อว่าหลายคนคงเคยประสบปัญหาทางด้านการเงินกัน ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ที่จำเป็นต้องใช้เงินด่วน ต้องกู้เงิน ยืมเงิน หรือแม้กระทั่งถูกขอยืมเงินจากคนรู้จัก ซึ่งประเด็นหลักของปัญหานี้ก็คือ การคืนเงิน ตามที่ตกลงกันไว้ และแน่นอนว่าธุรกรรมด้านการกู้เงินแบบนี้ต้องมีการทำ สัญญากู้เงิน  เพื่อเป็นหลักฐานในการกู้ยืมเงินและเป็นข้อบังคับที่ให้ผู้กู้ต้องปฏิบัติตามข้อตกลงขอการคืนเงินอย่างหลีกเลี่ยงหรือฉ้อโกงใด ๆ ไม่ได้ โดยคนส่วนใหญ่มักหาแบบฟอร์มตามร้านค้า ห้างสรรพสินค้า หรือแบบฟอร์มตามอินเทอร์เน็ต แต่ในบางครั้งรูปแบบสัญญากู้ยืมเงินก็ไม่ตอบโจทย์การกู้ยืมเงินในหลายๆสถานการณ์ หรืออาจมีแบบฟอร์มมากเกินไปจนเลือกกันไม่ถูก ไม่รู้ว่าแบบไหนคือรูปแบบที่ถูกต้องที่สุด ซึ่งในความเป็นจริงแล้วบุคคลทั่วไปสามารถเขียนสัญญากู้เงินหรือหลักฐานการกู้ยืมเงินขึ้นมาเองได้ โดยขอเพียงแค่มีองค์ประกอบหลักๆของสัญญาการกู้ยืมเงินครบถ้วนเท่านั้น และองค์ประกอบหลักของการทำสัญญากู้ยืมเงินเพื่อเป็นหลักฐานนั้นได้แก่

  1. วันที่ที่เริ่มทำสัญญากู้เงิน
  2. ชื่อผู้กู้และผู้ให้กู้
  3. จำนวนเงินที่ทำการกู้ยืม
  4. อัตราดอกเบี้ย
  5. การกำหนดวันและจำนวนเงินที่ชำระในแต่ละงวดตามที่ตกลงกันไว้
  6. ลายเซ็นผู้กู้และผู้ให้กู้
  7. แนบสำเนา หรือ รูปถ่ายบัตรประชาชนพร้อมเซ็นรับรองกำกับไว้

นอกจากนี้ทางเรายังมีตัวอย่างวิธีการเขียนสัญญากู้ยืมเงินด้วยตัวเองอย่างง่ายๆมาฝากผู้อ่านทุกท่านด้วยเช่นกัน เพื่อเก็บนำไปใช้ในช่วงเวลาที่ฉุกเฉินหรือเร่งด่วนแล้วจริงๆ เพราะสัญญาที่เขียนขึ้นมาเองนั้นเป็นสิ่งที่เรียบง่าย แถมองค์ประกอบครบและสามารถใช้เป็นหลักฐานการกู้ยืมเงินได้ แต่ขาดความเป็นทางการไปเท่านั้น ซึ่งตัวอย่างสัญญากู้เงินฉบับต่อไปนี้เป็นรูปแบบของสัญญากู้ยืมเงินที่เขียนขึ้นเอง

 

 

สัญญากู้ยืมเงิน

วันที่ xx เดือน xxxxxxxxxxx ปี xxxx

ข้าพเจ้า...........(คำนำหน้า ชื่อ – สกุล) ........ในฐานะ “ผู้กู้” อายุ......... ปี  เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน..........................ที่อยู่เลขที่ ........................................(ระบุที่อยู่โดยละเอียด).............................

ผู้กู้ได้ทำการกู้ยืมเงินจาก.......(คำนำหน้า ชื่อ – สกุล) .........ซึ่งมีฐานะ “ผู้ให้กู้” เมื่อ................ไปเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น............ บาท (...........บาทถ้วน) และข้าพเจ้าได้รับเงินจำนวนดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้วในการทำหลักฐานการกู้ยืมนี้

ในการนี้ข้าพเจ้าขอทำสัญญาการชำระหนี้แบบผ่อนจ่ายรายเดือน โดยไม่เกินวันที่..... ของทุกเดือน เป็นจำนวน......... บาท (..........บาทถ้วน) ต่อเดือน พร้อมดอกเบี้ย....... บาท ในทุกงวดที่ผ่อนจ่ายชำระเงินสำหรับจำนวนเงินกู้ยืมดังกล่าวข้างต้น และข้าพเจ้าจะชำระเงินจำนวนทั้งหมด ............บาท (........บาทถ้วน) ภายในวันที่ ………….

ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อความข้างต้นดังกล่าวเป็นความจริงทุกประการ

หากผู้กู้ปฏิบัติผิดนัดสัญญาแล้ว ผู้ให้กู้สัญญาบอกเลิกสัญญาและทำการเรียกเงินคืนได้ทันที

 

 

ลงชื่อ...........................................                                                                                      ลงชื่อ...........................................

 

 (         ชื่อ – สกุล           )

                ผู้ให้กู้

(       ชื่อ – สกุล              )

                    ผู้กู้

 

 

ตัวอย่างสัญญากู้ยืมเงินในข้างต้นเป็นหลักฐานการกู้ยืมเงินฉบับเขียนขึ้นมาเองจากทางเรา ซึ่งผู้อ่านสามารถนำไปใช้ได้จริง นอกจากนี้สิ่งสำคัญที่ควรรู้ในการทำสัญญากู้ยืมเงินอีกเรื่องหนึ่งก็คือ กฎหมายในการกู้เงิน โดยในกฎหมายของการกู้ยืมเงินนั้นแบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ

  1. กรณีที่ทำการกู้ยืมเงินไม่เกิน 2,000 บาท ในกรณีนี้กฎหมายไม่ได้บังคับว่าต้องมีการทำสัญญากู้ยืมเงินหรือต้องมีหลักฐานในการกู้ยืมเงินใดๆ นั่นหมายความว่าถ้ามีการยืมและตั้งเงื่อนไขกันด้วยปากเปล่าก็สามารถฟ้องร้องบังคับคดีตามกฎหมายได้ถ้าหากที่การทำผิดข้อตกลงเกิดขึ้น
  2. กรณีที่ทำการกู้ยืมเงินเกิน 2,000 บาท ในกรณีนี้กฎหมายบังคับว่าจะต้องมีหลักฐานในการกู้ยืมเงิน นั่นหมายความว่าทั้ง 2 ฝ่าย (ผู้กู้ กับ ผู้ให้กู้) ต้องทำสัญญากู้ยืมเงินเพื่อเป็นหลักฐานต่อกัน ไม่อย่างนั้นถ้ามีการผิดข้อตกลงใดๆเกิดขึ้นจะไม่สามารถทำการฟ้องร้องบังคับคดีต่อกันได้

ดังนั้น ไม่ว่าจะมีการยืมเงินจำนวนน้อยกว่าหรือมากกว่า 2,000 บาท ก็ควรมีการทำสัญญากู้ยืมเงินเอาไว้เป็นหลักฐาน เผื่อเกิดกรณีผิดข้อตกลงขึ้นมา โดยรูปแบบของสัญญากู้ยืมเงินนี้จะเขียนด้วยลายมือหรือพิมพ์มาแล้วเซ็นอย่างเดียวก็ได้ เพียงแค่เนื้อความในสัญญากู้ยืมเงินมีองค์ประกอบครบถ้วนดังที่กล่าวไปในข้างต้น

       นอกจากนี้ยังมีกฎหมายเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยในการกู้ยืมเงิน อายุความในการฟ้องคดีกู้ยืมเงิน อีกด้วยที่เป็นสิ่งสำคัญและควรรู้ก่อนทำสัญญากู้ยืมเงินใดๆ โดยกฎหมายได้บอกไว้ดังนี้

  1. ในเรื่องของดอกเบี้ยกู้ยืมเงินนั้น กฎหมายได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยในการกู้ยืมเงินเอาไว้ไม่เกินอัตราร้อยละ 15 ต่อปี (ร้อยละ 1.25 ต่อเดือน) ถ้าหากมีการคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนดไว้ ถือเป็นความผิดฐานอาญา ซึ่งต้องจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และดอกเบี้ยเงินกู้ยืมนั้นเป็นโมฆะทั้งหมด แต่เงินต้นยังสมบูรณ์ ส่วนดอกเบี้ยที่ผู้กู้ได้จ่ายไปแล้วไม่สามารถเรียกคืนได้เพราะถือว่าเป็นการชำระหนี้ตามอำเภอใจ
  2. ในเรื่องของอายุความสำหรับการฟ้องคดีกู้ยืมเงิน การฟ้องร้องเรียกเงินตามสัญญากู้ยืมเงินต้องมีอายุความ 10 ปีนับแต่วันที่กู้ถึงกำหนดชำระเงินกู้ยืมคืน แต่หากสัญญากู้ยืมตกลงกันกำหนดชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยเป็นงวดๆ จะเป็นกรณีที่คู่สัญญาได้ตกลงชำระหนี้เพื่อผ่อนทุนคืนเป็นงวดๆ ซึ่งจะมีอายุความเพียง 5 ปี ทั้งนี้อายุความนี้ขึ้นอยู่กับการทำสัญญาอีกทีว่ามีข้อตกลงกันถึงเมื่อไร อย่างไร โดยต้องระบุให้ชัดเจนลงในสัญญากู้ยืมเงิน

สุดท้ายนี้สิ่งสำคัญที่ต้องรู้ไว้ก่อนทำสัญญากู้ยืมเงินมีคำแนะนำดังนี้

  1. ห้ามลงลายเซ็นหรือลายมือลงในกระดาษเปล่าเด็ดขาด
  2. ก่อนลงลายมือเซ็นชื่อในสัญญากู้ยืมเงินใดๆ ให้ตรวจสอบสัญญาอย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อน
  3. สัญญาควรทำอย่างน้อย 2 ฉบับ โดยให้ผู้กู้ 1 ฉบับ และผู้ให้กู้ 1 ฉบับ
  4. ถ้าจะให้ดีควรมีพยานฝ่ายผู้กู้ลงลายมือเซ็นชื่อเป็นพยานในสัญญากู้ยืมเงินด้วย อย่างน้อย 1 คน (ในส่วนนี้จะมีหรือไม่มีก็ได้)
  5. ในการชำระหนี้แต่ละครั้งควรมีหลักฐานในการชำระไว้ด้วย
  6. เมื่อชำระหนี้ทั้งหมดแล้วต้องขอสัญญากู้ยืมเงินคืนมาจากผู้ให้กู้ด้วย

 

 

ใช้บริการสินเชื่อเงินด่วนนอกระบบดีไหม? ยังไงบ้าง?