26 April 2019
ตั้งแต่เล็กจนโตมา หลายๆ คนมักจะได้ยินคำสอน หรือได้ยินคนพูดถึงหลักเศรษฐกิจพอเพียงกันอยู่เสมอ แต่น้อยคนนักที่จะได้ทำความเข้าใจ และนำมาปรับใช้กับชีวิตจริงอย่างเต็มที่ ซึ่งหลักเศรษกิจพอเพียงนี้ ไม่เพียงแต่เราจะสามารถใช้ได้ในการทำธุรกิจ การใช้ชีวิตเมื่อเติบโตขึ้นเท่านั้นนะครับ แต่เรายังสามารถนำมาปรับใช้ได้ทุกช่วงวัยของชีวิต ตั้งแต่เด็กเล็ก ไปจนถึงผู้ใหญ่วัยเกษียณเลย ซึ่งเศรษฐกิจพอเพียงตามคำสอนของพ่อหลวงที่ปลูกฝังกันมายาวนานกว่า 45 ปีนี้จะเป็นยังไง ไปชมกันเลย
เศรษฐกิจพอเพียงนั้นเป็นคำสอนของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งพระองค์ทรงมีพระราชดำริเรื่องนี้มาตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2517 หรือประมาณ 45 ปีก่อนนู้นเลยล่ะครับ ซึ่งจุดเริ่มต้นของเศรษฐกิจพอเพียงนั้นมาจากการที่สังคมในโลกเราทุกวันนี้มันเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว สิ่งต่างๆ หมุนไวจนทำให้คนใช้จ่ายเงิน และมีวิถีชีวิตที่ฟุ่มเฟือยมากยิ่งขึ้น ทั้งของกินของใช้ราคาแพง และพฤติกรรมของคนเราที่วิ่งตามวัตถุในกระแสมากขึ้น
เศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลักปรัชญาที่จะชี้ให้เห็นถึงแนวทางในการดำรงชีวิตของคนทุกระดับชั้นในสังคม ซึ่งความพอเพียงไม่ใช่การอดอยาก ไม่ใช่การที่เราเลิกกระเสือกกระสนทำงาน หรือปล่อยให้ตัวเองหิวโซ
แต่ความพอเพียงคือ ความพอประมาณ ความมีเหตุมีผล และมีระบบคุ้มกันตัวเองที่ดี สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกได้ มีความรู้ มีความรอบคอบ มีความระมัดระวังและนำวิชาการต่างๆ มาปรับใช้วางแผนและดำเนินการอย่างบรรลุจุดประสงค์
หรือจะบอกอย่างเข้าใจง่ายดายที่สุด คือ เศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวพระราชดำริที่ใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาสังคมให้คนเราเดินทางสายกลาง อยู่บนความไม่ประมาท ไม่ฟุ่มเฟือย คำนึงถึงความพอประมาณ มีเหตุผล ใช้ความรู้ ความสามารถ และคุณธรรมในการดำเนินชีวิต โดยใช้สติ ปัญญา และความพยายาม เป็นบันไดสู่ความสุขอย่างแท้จริง
หลักเศรฐกิจพอเพียงนั้นฟังดูแล้วอาจจะยังไม่เห็นภาพ ซึ่งในความเป็นจริงการดำเนินตามคำสอนนี้ไม่ยากเลยครับ เพียงเรายึดตามหลักปฏิบัติแบบ 3 ห่วง 2 เงื่อนไข ก็จะช่วยให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีแบบแผนแล้ว ซึ่ง 3 ห่วง 2 เงื่อนไข นั้นประกอบด้วย
เป็นการทำทุกอย่างในความพอประมาณ ไม่มากไป ไม่น้อยไป ไม่เบียดเบียนตัวเอง และผู้อื่นให้เดือดร้อน
คือการตัดสินใจเกี่ยวกับความคอเพียงของตัวเองอย่างมีเหตุผล ใช้เหตุผลพิจารณาสิ่งต่างๆ และคิดผลที่จะเกิดขึ้นตามมา
เตรียมตัวรับผลกระทับกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น โดยคิดล่วงหน้าถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่างๆ ในอนาคต
ต้องมีความรู้เกี่ยวกับวิชาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน มีความรู้ และสามารถนำความรู้และสิ่งเหล่านั้นมาใช้ได้อย่างรอบคอบ เพื่อวางแผน และปฏิบัติตามให้ออกมาประสบความสำเร็จ
นอกจากนี้ยังต้องมีคุณธรรมในการดำเนินตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ซื่อสัตย์ สุจริต และมีความอดทน มีความพยายามใช้สติปัญญาเพื่อดำเนินชีวิตแบบไม่เอารัดเอาเปรียบผู้ใด
ถ้าเพื่อนๆ ได้สังเกตและทำความเข้าใจกับเศรษฐกิจพอเพียงอย่างจริงจัง จะรู้เลยว่าหลักสำคัญนั้นมุ่งเน้นให้คนเราสามารถดำเนินชีวิตอย่างสงบสุข เรียบง่าย ได้ด้วยตัวเอง โดยไม่เดือดร้อนใคร สามารถดูแลตัวเอง และคนในครอบครัวได้ รวมไปถึงการพัฒนาธุรกิจ และจัดตั้งกลุ่มคนในวิชาชีพเดียวกัน มาแลกเปลี่ยนความรู้ ช่วยเหลือกัน และพัฒนาวิถีชีวืตให้ดีขึ้นไปพร้อมๆ กัน
การทำงานในเมืองก้สามารถรวมกลุ่มกันได้นะครับ ไม่จำเป็นต้องเป็นวิถีทางการเกษตรแค่เพียงอย่างเดียว เราสามารถนำเศรษฐกิจพอเพียงไปปรับใช้ได้กับทุกบริบทในสังคม สามารถใช้ในการต่อยอดความรู้ ไปจนถึงการแบ่งปันความช่วยเหลือให้กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
เมื่อมีความรู้ มีคุณธรรม มีความพอเพียง และดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท เราก็จะสามารถใช้ความรู้เหล่านั้นในการพึ่งพาตัวเอง และส่งมอบสิ่งที่ดีต่อไปให้กับสังคม เกิดเป็นสังคมที่น่าอยู่และทุกคนมีความรักใคร ปรองดอง ช่วยเหลือซึ่งกันและกันอย่างที่พวกเราทุกคนอยากให้เป็น
เกิดเป็นคำถามคาใจใครหลายๆ คนเป็นจำนวนมากว่า ถ้าเรากำลังดำเนินแนวตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงนั้น เราต้องห้ามกู้เงินจริงมั้ย ถ้ากู้จะเท่ากับไม่พอเพียงแล้วใช่รึเปล่า ซึ่งคำตอบคือ ไม่ใช่ เลย การทำธุรกิจ การกู้เงินเพื่อมาต่อยอดเงินนั้นไม่นับเป็นการใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือย
ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง หรือแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงนั้นสามารถกู้เงิน ยืมเงินได้ตามปกติในการดำเนินชีวิตทั่วไป เพียงแต่การสร้างหนี้กู้เงินในครั้งนั้นจะต้องทำไปเพื่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ กลับมา ไม่ใช่การนำไปใช้กับของฟุ่มเฟือย ไม่จำเป็น เอามาใช้เพื่อสร้างอาชีพ สร้างความเจริญก้าวหน้าให้กับชีวิตนั้นเป็นสิ่งที่ทำได้
และแน่นอนครับว่าการมีบัตรเครดิตรนั้นก็ไม่ใช่เป็นการผิดต่อหลักเศรษฐกิจพอเพียงแต่อย่างใด เพราะบัตรเครดิตมอบสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้เรามากมาย และนับเป็นการใช้งานสิ่งของที่โลกนี้พึงมีอย่างเกิดประโยชน์สูงสุด ช่วยประหยัดเงิน ช่วยให้ได้สิทธิพิเศษที่ตัวบัตรมอบให้ ซึ่งถ้าเราสามารถใช้งานได้อย่างมีสติ ก็มั่นใจได้เลยว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้หลักเศรษฐกิจพอเพียงในใจกลายเป็นเรื่องที่ถูกต้องแน่นอน
การเริ่มต้นเศรษฐกิจพอเพียงนั้นทำได้ไม่ยากเลยครับ ไม่จำเป็นต้องถึงขั้นลาออกจากงาน ไปอยู่บ้านปลูกผัก ปลูกต้นไม้ดูแลตัวเอง เราสามารถใช้ชีวิตเป้นมนุษย์เงินเดือนไป และยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปพร้อมกันได้ เพียงแค่เราเริ่มต้นตามนี้
1. หาความรู้ใส่ตัวอยู่ตลอดเวลาการมีความรู้ประดับตนจะช่วยให้เราประหยัดเงินในการทำสิ่งต่างๆ ได้เยอะขึ้น เช่น เรามีความรู้ในการตัดเย็บ ก้จะช่วยให้เวลาเกิดเสื้อผ้าขาด ก็ไม่จำเป็นต้องจ้างช่าง ถึงแม้จะประหยัดเงินไปได้หลักสิบบาท แต่มันจะเป็นค่าใช้จ่ายที่เราไม่ต้องเสียอีกเลยตลอดชีวิต ถ้าเรามีความรู้ในทุกๆ เรื่องเพิ่มขึ้นมา ก็จะช่วยให้ชีวิตนี้ประหยัดค่าใช้จ่ายในด้านอื่นๆ ไปได้มากแบบไม่น่าเชื่อ
2. ออมเงินทุกเดือนอย่างน้อย 10%การเก็บเงินไม่จำเป็นต้องเก็บทีละเยอะๆ 5 พัน หมื่นหนึ่ง แต่ขอแค่เราเก็บได้ทุกเดือน และมีเงินเหลือพอกินพอใช้ ก็นับว่าใช้ได้แล้ว โดยเราสามารถเริ่มต้นออมเงินได้ง่ายๆ แบบอัตโนมัติ เพียงแค่ตั้งค่าโอนเงินจากบัญชีนึงไปสู่อีกบัญชีที่เป็นบัญชีเพื่อออม เท่านั้นก็จะทำให้มีเงินเก็บ และทำให้ในเดือนนั้นๆ สามารถใช้จ่ายได้ตามอัธยาศัยแบบไม่ต้องคิดมากแล้ว
การกินเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้มนุษย์เงินเดือนหมดเงินมากที่สุด เพราะมีร้านอาหารอร่อยๆ เรียงรายล้อมรอบ ดังนั้นให้จัดการวางแผนการกิน อาทิตย์นึงกินอาหารฟุ่มเฟือยได้กี่ครั้ง กินชาไข่มุกได้กี่แก้ว หรือกินกาแฟหรูๆ ได้กี่มื้อ การจำกัดตัวเองแบบนี้จะช่วยเพิ่มเงินเก็บให้คุณและทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงอีกด้วย
4. หมั่นอออกกำลังกายเป็นประจำเศรษฐกิจพอเพียงนั้นไม่ได้โฟกัสอยู่แค่กับเรื่องการเงินอย่างเดียว แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เรามีสุขภาพดี และออกกำลังกายเป็นประจำ โรคภัยไข้เจ็บไม่ถามหา เมื่อนั้นก็เท่ากับเราจะประหยัดเงินค่ารักษาพยาบาลไปได้อีกมาก เริ่มต้นรักตัวเองตั้งแต่วันนี้ แค่ออกกำลังกายเป็นประจำ ก็ถือเป็นหนึ่งในหลักคำสอนเศรษฐกิจพอเพียงแล้ว
5. มอบน้ำใจให้คนใกล้ตัวสุดท้ายแล้วเศรษฐกิจพอเพียงก็คือการแบ่งปัน ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของ หรือน้ำใจ แค่เรามีคุณธรรม มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ก็จะทำให้คนรอบข้างรักใคร่ หยิบยื่มน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ให้แก่กันเสมอ ก็นับเป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้ตั้งแต่ตอนนี้เลย
สุดท้ายแล้วหลักเศรษฐกิจพอเพียงก็จะยังคงอยู่กับเราไปตลอดชีวิต ไม่ว่าโลกนี้จะเปลี่ยนแปลงไปยังไง มันก้ยังคงใช้งานได้อย่างดีอยู่เสมอแม้จะผ่านไปกี่ยุคสมัยก็ตาม ดังนั้นเริ่มต้นทำตามแนวคิด ปรับเปลี่ยนชีวิตและพฤติกรรมเราทีละน้อยๆ รับรองครับว่าจะช่วยให้ชีวิตของเราไม่วุ่นวาย ไม่ปวดหัว ไม่ต้องกลัวเป็นหนี้ และไม่ต้องกลัวมีเงิน เศรษฐกิจพอเพียงจะทำให้คุณกลายเป็นคนรวย ทั้งรวยน้ำใจ และรวยความดี เปลี่ยนคุณให้มีชีวิตที่สุขสบายขึ้นได้อย่างแน่นอน