23 June 2019
แม้ภาครัฐมีนโยบายการกวาดล้างนายทุนเงินกู้นอกระบบกันออกมาเรื่อยๆ เงินด่วนนอกระบบ หรือมีชื่ออีกชื่อที่เรียกว่า “หนี้นอกระบบ” หมายถึง หนี้ที่ผู้ให้กู้ยืมเงินโดยไม่ได้ผ่านสถาบันการเงิน หรือไม่ใช่สถาบันการเงินที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย ผู้ให้กู้ยืมนอกระบบนั้นจะคิดดอกเบี้ยสูงกว่าอัตราเกินกำหนด (กฎหมายกำหนดว่าห้ามเกินร้อยละ15) เป็นอีกทางหนึ่งที่มิจฉาอาชีพสามารถแฝงตัวเข้ามาหลอกเราได้ และถ้าหากเราทำการกู้เนี่ย เราอาจจะต้องจ่ายดอกเบี้ยถึง 35% เลยก็ได้ ไม่ว่าเรารับนี้นอกระบบไม่ดาวน์รถหรอเแล่า
นอกจากนี้ยังเป็นหนี้ที่เกิดจากสิ่งของที่ผิดกฎหมายเงินด่วนนอกระบบในปี2019 อย่างเช่น หนี้ที่เกิดจากการพนัน หรือจากการขายยาเสพติดให้โทษ
ต้องจ่ายวันละ 150 x 90 = 13,500 บาท
ดอกเบี้ย 13,500 – 10,000 = 3,500 บาท
อัตราดอกเบี้ย 3 เดือน (3,500+10,000)x100
= 35% ต่อ 3 เดือน
อัตราดอกเบี้ยจ่ายต่อปี = (35/3)x12 = 140 % ต่อปี
จำนวนเงินที่เราจ่ายคืนหรือดอกเบี้ยที่นายทุนกู้แจ้งต่อผู้กู้นั้น มักจะเป็นจำนวนจ่ายคืนหรือดอกเบี้ยต่อวันเพื่อให้รู้สึกว่าเป็นเงินจำนวนน้อย เมื่อคำนวณแล้วเงินที่ต้องจ่ายคืนรวมกับเงินต้น จะพบว่าเงินเรียกเก็บจะสูงกว่าสถาบันการเงินที่มีทางการดูแลเป็นจำนวนมาก แล้วถ้าเรา
ระยะสั้น (เงินด่วนนอกระบบรายวัน) หนี้ระยะสั้น หรือหนี้รายวัน มีหลายรูปแบบ เช่น เงินทอง หรือสินค้าอื่นๆ ที่มีการเก็บดอกเบี้ยรายวัน โดยคิดเงินต้นและดอกเบี้ยไว้ด้วยกัน
หนี้ระยะยาว (เงินด่วนนอกระบบรายเดือน/ปี) เป็นการปล่อยจริงกู้ระยะยาวที่มากกว่า 1 เดือนขึ้นไป เก็บดอกเบี้ยรายเดือนจนกว่าจะมีเงินก้อนมาใช้คืน หากเกิดกรณีที่มียอดเงินสูงมาก จะมีการใช้หลักทรัพย์ประกัน เช่น รถ บ้าน โฉนดที่ดิน
หลายคนเคยได้ยินว่าเงินด่วนนอกระบบนั้นมีความเสี่ยงและไม่น่าเชื่อถือ เหตุผลหลักๆ คือ “ความสะดวกและรวดเร็ว” เพราะการกู้นอกระบบนั้นสามารถหาแหล่งเงินได้ง่าย ไม่ยุ่งยากเหมือนกับการกู้จากสถาบันการเงิน อีกทั้งยังไม่ต้องห่วงเงินเดือนขั้นต่ำด้วย และผลเสียที่ต้องแลกมาเพื่อให้ได้ความง่ายก็คือ “ความเสี่ยง” จากการโดนทวงหนี้ตามตัวถึงบ้านหรือที่ทำงาน ยึดข้าวของ ทำร้ายร่างกาย และมีดอกเบี้ยที่แพงมากจากดอกเบี้ยสำหรับการกู้นอกระบบด้วย
เนื่องจากผู้กู้นอกระบบส่วนมากร้อนเงิน อยากใช้เงินด่วนในระยะเวลาอันสั้น และเงื่อนไขที่นายทุนกำหนดมีความซับซ้อน เกิดความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาการใช้หนี้ ขั้นตอนการกู้ยืมต่างๆ ตลอดจนเบี้ยที่ถูกปรับ ถ้าหากเราไม่ทำความเข้าใจให้ดีก็สามารถตกเป็นเหยื่อได้
ด้วยเงื่อนไขที่ตั้งขึ้นมาเอง ไม่มีภาครัฐคอยควบคุมหรือดูแล นายทุนหลายรายหัวใส ครบกำหนดต้องจ่ายดอกเบี้ยของลูกหนี้กลับหายไป ติดต่อไม่ได้ ทำให้ลูกหนี้ผิดนัดชำระ และเกิดการจ่ายดอกเบี้ยไม่ตรงงวด โดนปรับตามเงื่อนไขที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งหากเอาทรัพย์สินที่มีไปค้ำประกันนั้นก็จะโดนยึดไปตามสัญญาที่ตนเซ็นเอาไว้
เงินกู้นอกระบบเป็นการกู้ยืมกันเองของบุคคล ผู้กู้และผู้ให้กู้ยืมกันเองโดยมีความสมัครใจ รัฐไม่สามารถล่วงรู้ธุรกรรมดังกล่าวได้ เนื่องจากเป็นการเกิดขึ้นนอกเหนือจากการควบคุมดูแลของรัฐ ทำให้เงินกู้นอกระบบมักจะไม่ได้สิทธิหรือความคุ้มครองที่พึงได้ตามกฎหมาย เมื่อเทียบกับผู้กู้เงินกับผู้ให้บริการเงินทุนที่มีความถูกต้องตามกฎหมาย
หลายคนคงเคยเห็นข่าวตามสื่อหลายแห่ง เกี่ยวกับการทวงหนี้นอกระบบที่โหดเหี้ยม โดนยึดทรัพย์จนหมดตัว เกิดการขู่ทำร้ายโดยนายทุนนอกระบบ สร้างความเสียหายและเป็นภัยต่อผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้น
เงื่อนไขของการกู้เงินด่วนนอกระบบส่วนใหญ่ ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อความเป็นธรรมต่อผู้กู้และผู้ให้กู้ ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ผู้ให้กู้ได้เปรียบ มีดอกเบี้ยที่สูงเกินกว่าปกติ หากเกิดเป็นเหยื่อของการกู้นอกระบบแล้ว ไม่แปลกที่ผู้กู้ต้องติดอยู่ในระบบนี้อย่างยาวนาน ซึ่งจะเกิดการกู้หนี้ต่อ เกิดภาระเพิ่มขึ้นเพื่อนำมาชดใช้ดอกเบี้ยราคาแพง หรือนำมาโปะหนี้เงินกู้นอกระบบ และทำให้เกิดความซ้ำซ้อนจนเป็นปัญหาเรื้อรังต่อไปด้วย
การกู้เงินด่วนนอกระบบเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ หากคุณกู้เงินนอกระบบมาควรจัดการชำระหนี้โดยเร็ว ซึ่งหากใช้เวลานานจะทำให้เกิดดอกเบี้ยที่โหด ฝึกนิสัยการใช้เงิน รู้จักประหยัดอดออม ไม่ฟุ่มเฟือย อาจเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่หากฝึกได้ก็สามารถควบคุมการเงินได้ในระยะยาว